Last updated: 3 ธ.ค. 2568 | 18 จำนวนผู้เข้าชม |
ถ้าคุณเป็นสายกาแฟมือใหม่ หรือเพิ่งก้าวเข้าวงการ Specialty Coffee สิ่งหนึ่งที่ต้องเคยสงสัย คือ “ประเภทกาแฟมีกี่แบบกันแน่?”
เคยไหมเวลาไปคาเฟ่เห็นชื่อกาแฟเต็มเมนู ทั้ง Arabica, Robusta, Latte, Mocha, Nitro ฯลฯ ก็เริ่มงงว่า แต่ละแบบคืออะไร ต่างกันอย่างไร จะไปยืนงงหน้าเคาน์เตอร์นาน ๆ จนพนักงานถามก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น น้องเจนนี่เลยขออาสามาไกด์ให้แบบเข้าใจง่าย มองปุ๊บรู้ปั๊บว่า แต่ละประเภทต่างกันยังไง และเหมาะกับสไตล์การดื่มแบบไหน เรามาเริ่มจากประเภทกาแฟที่แบ่งตามชนิดของเมล็ดกาแฟกันก่อนเลยค่ะ
นี่คือ พื้นฐานที่สุดที่ควรรู้ก่อนสั่งกาแฟทุกแก้ว เพราะ “สายพันธุ์เมล็ด” ส่งผลต่อกลิ่น รสชาติ ความเข้ม และคาแรกเตอร์ของกาแฟอย่างมาก เรามาดูกันเลยว่า เมล็ดกาแฟแบบไหนเหมาะกับคนดื่มกาแฟสไตล์ไหน
1) Arabica: รสนุ่ม ละมุน มีรสผลไม้อ่อน ๆ
สาย Specialty ส่วนใหญ่ คือ เมล็ดอาราบิกา เพราะมีความหอมหวานตามธรรมชาติ ให้กลิ่นโทนผลไม้ ดอกไม้ ถั่ว และช็อกโกแลตบาง ๆ
มักจะมีกรด Acidity หรือความเปรี้ยวที่เกิดจากกรดอินทรีย์ตามธรรมชาติในเมล็ดกาแฟสูงกว่ากาแฟประเภทอื่น ๆ จึงให้รสชาติที่ซับซ้อน
มีความนุ่มนวล ดื่มแล้วสดชื่น รสชาติไม่โดด จึงเหมาะกับการดื่มแบบ Black Coffee เพื่อให้ได้รสสัมผัสจากเมล็ดอย่างเต็มที่
ราคาแพงกว่า Robusta เพราะมีกระบวนการปลูกที่ยุ่งยากกว่า
เหมาะกับ: ดริป, ลาเต้รสนุ่ม, เอสเพรสโซ่แบบบาลานซ์
2) Robusta: เข้ม ขม มัน คาเฟอีนสูงกว่า
Robusta คือ กาแฟสายเข้มข้นที่คนไทยคุ้นเคย ใครอยากดื่มแล้วตื่นเต็มตาต้อง Robusta นี่เลย
คาเฟอีนสูงกว่า Arabica ประมาณ 2 เท่า
รสชาติขมเข้ม มีบอดี้หนักหรือการมีเนื้อสัมผัสของกาแฟที่รู้สึกได้ในปาก
เวลาชงเอสเพรสโซ่มักจะมีครีม่าล้น ๆ หรือเห็นชั้นโฟมสีน้ำตาลทอง ละเอียดนุ่มและหนา ลอยอยู่บนผิวหน้าเอสเพรสโซนั่นเอง
เหมาะกับ: เมนูเย็น, กาแฟโบราณ, กาแฟที่ต้องการความฟีลครีม่าแน่น ๆ
3) Liberica & Excelsa: สายแปลกแต่มีเสน่ห์
เป็นเมล็ดกาแฟที่พบได้น้อย ให้อารมณ์คล้ายลูกผสมระหว่าง Robusta + Tropical Fruit
กลิ่นไม้ สมุนไพร ผลไม้เปรี้ยว
ให้รสชาติแปลกใหม่สำหรับคอกาแฟสาย Specialty
เหมาะกับ: คนชอบลองอะไรใหม่ ๆ เหมือนได้ผจญภัยเข้าไปในโลกของกาแฟอย่างแท้จริง
รวมเมนูคลาสสิกสุดฮิต เวลาเข้าไปสั่งกาแฟในร้านจะได้เมนูที่ถูกใจ
1) Espresso – ช็อตสั้นที่เข้มที่สุดของกาแฟ
กาแฟเข้มช็อตเล็ก ๆ ยกกระดกได้แบบรวดเร็วเหมือนคำว่า Espresso ที่แปลว่า “เร่งด่วน” เน้นบอดี้หนัก ให้รสชาติที่ชัดเจน จะจิบดื่มแบบเดี่ยว ๆ หรือนำมาทำ Base ของเมนูอื่นก็ได้เช่นกัน
2) Americano – เอสเพรสโซ่ + น้ำร้อน
รสชาติจะเบาลงจาก Espresso เล็กน้อย แต่ยังชัดเจนในกลิ่นกาแฟ ดื่มง่าย ดื่มได้เรื่อย ๆ
3) Latte – นม + ฟองนม + เอสเพรสโซ่
เมนูยอดฮิตจากกาแฟและนม รสชาตินุ่มนวล ดื่มง่าย เป็นเมนูโปรดของใครหลาย ๆ คน
4) Cappuccino – ฟองนมเยอะกว่าลาเต้แต่ปริมาณนมน้อยกว่า
รสเข้มกว่าลาเต้เล็กน้อย แต่มีฟองนมเยอะ จึงยังคงความนุ่มละมุนไว้อยู่ เป็นเมนูที่เป็นที่นิยมไม่แพ้ลาเต้
5) Flat White – นมอุ่น + ฟองนมบาง + เอสเพรสโซ่ อีกหนึ่งเมนูที่คนรักกาแฟนมไม่ควรพลาด
คล้ายลาเต้ แต่ช็อตเล็กกว่าและฟองนมน้อยกว่า มีความนุ่มนวลจากนมที่นำไปสตีมจนอุ่นพอดี
6) Mocha – เอสเพรสโซ่ + ช็อกโกแลต + นม
อยากดื่มกาแฟ แต่ก็ชอบช็อกโกแลตด้วยต้องเมนูนี้ ผสานความอร่อยเข้มข้นของช็อกโกแลตกับความหอมของกาแฟคั่วบดเข้าด้วยกันแล้วปิดท้ายด้วยนมที่สตีมมาเป็นอย่างดี บอกเลยเมนูนี้อร่อยไม่แพ้ของหวานเลยทีเดียว
ถ้าอยากให้ทุกแก้วกาแฟเต็มไปด้วยรสชาติสมบูรณ์แบบ ทั้งบอดี้แน่น รสชัด ฟองครีมสวยสีทองแบบมือโปร น้องเจนนี่ขอแนะนำ Jenniferoom Coffee Machine Steam Latte Pro 1.2 L. เลยเพราะมีครบทุกฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็นเฟืองบดเมล็ดแบบ Conical Burr ในตัวทำให้กาแฟหอมฟุ้ง เก็บรายละเอียดได้ครบทุก Taste Note ชงกาแฟด้วยแรงดันสูงถึง 19 บาร์ ทำให้สกัดกาแฟได้สม่ำเสมอ แค่แตะปุ่ม Touchscreen ก็พร้อมสกัดทันที เลือกได้ทั้ง 1 ช็อต สำหรับจิบเบา ๆ หรือ 2 ช็อต สำหรับคนที่อยากได้ปริมาณเต็ม ๆ แถมยังเลือกกดแค่น้ำร้อนก็ได้แบบครบจบในเครื่องเดียว พร้อมที่ตีฟองนมในตัวจึงทำได้ทั้งเมนูกาแฟดำและกาแฟนมแบบไม่ต้องซื้อแยก รับรอง ไม่ว่าจะชอบ Arabica หอมฟรุ๊ตตี้, Robusta เข้ม ๆ, หรือเมนูยอดฮิตอย่าง Latte, Cappuccino, Flat White ทุกแก้วจะอร่อยเหมือนบาริสต้ามาชงให้ที่บ้านเลยทีเดียว
สั่งซื้อได้แล้ววันนี้ที่ Jenniferoom Thailand หรือง่าย ๆ แค่คลิก:
Makro เครื่องชงกาแฟพร้อมตีฟองนม
Jenniferoom เครื่องชงกาแฟพร้อมตีฟองนม
Tel. 02-2585210-13
Line: @jenniferoomth
Facebook : Jenniferoomth.Official
Shopee : https://bit.ly/ShopeeJENNI
Lazada : https://bit.ly/LazadaJENNI
![]()