Last updated: 3 ธ.ค. 2568 | 21 จำนวนผู้เข้าชม |
เชื่อไหมว่า จากผลกาแฟเพียงเม็ดเดียว สามารถเปลี่ยนรสชาติกาแฟในแต่ละแก้วได้หลายมิติ บ้างมีกลิ่นหอมโทนผลไม้ บ้างก็หอมเข้มเติมความสดชื่นให้ร่างกายพร้อมลุยเช้าวันใหม่ แล้วเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมเวลาเราดื่มกาแฟแต่ละร้านรสชาติไม่เหมือนกัน ทั้ง ๆ ที่ทุกครั้งก็เลือกกาแฟอาราบิก้า คำตอบก็คือ Coffee Processing ที่แตกต่างกันนั่นเอง วันนี้น้องเจนจะพาไปเจาะลึก 3 วิธีหลักที่จะทำให้กาแฟในแก้วของคุณแตกต่างกันจนต้องทึ่ง พร้อมเปิดเคล็ดลับว่า "เครื่องชงที่ใช่" จะช่วยเพิ่มคุณภาพของเมล็ดแต่ละ Process ได้อย่างไร
Natural Process หรือที่บางคนเรียกว่า Dry Process คือเป็น Coffee Processing ที่ปล่อยให้ผลเชอร์รี่ (Coffee Cherries) ทั้งผลถูกตากแดดหรือตากในเตาแห้ง โดยที่เมล็ดกาแฟยังอยู่ในผลและเปลือกอีกนาน จึงได้กลิ่นและรสชาติของผลรวมทั้งเปลือกอย่างเต็มที่
กรรมวิธี
เก็บผลเชอร์รี่ที่สุกจัดแล้วออกมา
นำไปตากบนแผ่นเตา/ลานตาก แล้วจึงกลับด้านหรือคลุกเคล้าเมล็ดกาแฟเป็นช่วง ๆ อย่างสม่ำเสมอในระหว่างที่ตากแดด เพื่อไม่ให้เกินความชื้นวันละหลายครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
เมื่อผลแห้ง เหลือความชื้น ~10-12% เมล็ดก็จะพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป
สีเอาเปลือกและเนื้อออกจนเหลือเมล็ดเขียว (Green Bean)
รสชาติ: กลมกล่อม มีรสของผลไม้สุกหรือรสไวน์เบา ๆ เนื่องจากเมล็ดดูดซึมรสชาติจากผลกาแฟเต็มที่
2. Washed Process
กระบวนการสุดคลาสสิกที่ทั่วโลกใช้กันเยอะที่สุดค่ะ เพราะให้รสชาติที่สะอาดที่สุด และโชว์เอกลักษณ์ของสายพันธุ์กาแฟได้เต็ม ๆ
กรรมวิธี
ลอกเปลือกกาแฟออก
นำเมล็ดไปแช่น้ำและหมักแบบควบคุมเวลา 1 คืน
ขัดเมือกออกจนสะอาด
นำไปตากให้แห้ง
รสชาติ: สะอาด สดชื่น เหมาะกับคนที่ชอบกาแฟดื่มง่าย ดื่มได้ทุกวัน
3. Honey Process
ชื่อ Honey ไม่เกี่ยวกับน้ำผึ้งนะคะ แต่หมายถึง “เมือกกาแฟ” ที่ยังติดอยู่หลังลอกเปลือกออกแล้วนำไปตาก ทำให้กาแฟมีทั้งความหวานฉ่ำและความคลีนในแบบพอดี
กรรมวิธี
ลอกเปลือกออกแต่ยังคงเมือก (Mucilage) ให้เหลือติดเมล็ดไว้อยู่
ตากบนตะแกรงโดยไม่ล้างเมือก
พลิกกลับทุกวันจนแห้ง
รสชาติ: หวานฉ่ำ กลมกล่อม ไม่จืด แต่ก็ไม่ฟรุตตี้จนเกินไป เหมาะกับคนที่ชอบ “บาลานซ์ดี ๆ” บอกเลยว่า สายอเมริกาโน่แบบน้องเจนนี่ถูกใจสิ่งนี้สุด ๆ
เมื่อเข้าใจแล้วว่า “Coffee Processing” มีผลกับรสชาติของกาแฟแค่ไหน…ขั้นตอนต่อไปก็คือ การเลือกเครื่องชงที่สกัดรสชาติออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพค่ะ เพราะต่อให้เลือกเมล็ดดี Process หรูแค่ไหน แต่ถ้าเครื่องไม่แม่นพอ ทั้งบอดี้ กลิ่น และรสชาติความหวานตามธรรมชาติอาจหายไปแบบน่าเสียดายได้เลย น้องเจนนี่เลยอยากแนะนำเครื่องที่ตอบโจทย์คอกาแฟจริง ๆ อย่าง Jenniferoom Automatic Coffee Machine ที่มาพร้อม เฟืองบดแบบ Conical Burr ในตัว ช่วยรักษากลิ่นและความหวานของกาแฟจากทุกกระบวนการ (ไม่ว่าจะ Natural, Honey หรือ Washed) ได้ดีมาก ๆ แถมยังใช้แรงดันสูงถึง 19 บาร์ ทำให้สกัดเอสเพรสโซ่ได้เนียนนุ่ม พร้อมครีม่าสีทองสวยแบบคาเฟ่มืออาชีพ กดปุ่ม touchscreen เบา ๆ ก็พร้อมชงทันที ไม่ต้องรอ Pre-Heat ให้เสียเวลา จะเลือกกดเอสเพรสโซ่หนึ่งช็อต หรือกดแค่น้ำร้อนก็ทำได้ง่ายมาก เรียกได้ว่า “ครบมากและใช้งานง่ายสุด ๆ” เหมาะทั้งบ้านและออฟฟิศเลยค่ะ
สั่งซื้อได้แล้ววันนี้ที่ Jenniferoom Thailand ทุกช่องทาง หรือง่าย ๆ แค่คลิก:
Makro เครื่องชงกาแฟ
Jenniferoom เครื่องชงกาแฟ
Tel. 02-2585210-13
Line: @jenniferoomth
Facebook : Jenniferoomth.Official
Shopee : https://bit.ly/ShopeeJENNI
Lazada : https://bit.ly/LazadaJENNI
![]()