Last updated: 28 ต.ค. 2568 | 25 จำนวนผู้เข้าชม |
ใครกำลังมองหาเครื่องทำกาแฟหรือกำลังศึกษาข้อมูล เพื่อเตรียมถอยเครื่องทำกาแฟใหม่อยู่ อาจจะเคยสะดุดตากับตัวเลข “บาร์ (Bar)” ที่ระบุไว้ในสเปกเครื่อง เช่น 15 บาร์ หรือ 20 บาร์ แล้วสงสัยว่า บาร์นี้คืออะไร สำคัญแค่ไหนกับการสกัดช็อตกาแฟ? เครื่องชงกาแฟ 15 บาร์ กับ 20 บาร์ต่างกันอย่างไร? เลขยิ่งสูงยิ่งดีหรือไม่ แล้วควรเลือกเครื่องชงกาแฟกี่บาร์ดี วันนี้ น้องเจนอาสามาไขข้อสงสัยให้ค่ะ
“บาร์” (Bar) คือ หน่วยวัดแรงดันของปั๊มในเครื่องชงกาแฟ โดยแรงดันนี้จะเป็นตัวดันน้ำร้อนให้ผ่านผงกาแฟที่บดละเอียด เพื่อสกัดรสชาติและน้ำมันหอมระเหยออกมา ถ้าแรงดันเหมาะสมก็จะได้ช็อตกาแฟเอสเปรสโซ่ช็อตที่เข้มข้น มีกลิ่นหอม และมีครีม่าสวยนั่นเอง
แรงดันที่ใช้ในการสกัดกาแฟเป็นสิ่งที่มีผลต่อรสชาติของกาแฟ เพราะแรงดันบาร์ที่เหมาะสมจะช่วยให้รสชาติของกาแฟมีความบาลานซ์ทั้งความเปรี้ยว ขมและหวาน โดยแรงดันของเครื่องชงกาแฟที่ใช้ตามร้านทั่วไปมักจะอยู่ที่ 9 บาร์ ส่วนเครื่องชงกาแฟที่ใช้ตามบ้านมักจะใช้แรงดันที่ 15 บาร์ เพื่อให้การสกัดกาแฟเสถียรในสภาพแวดล้อมทั่วไป (ดังนั้นจึงตอบได้ว่า ไม่ใช่ว่าเลขสูงแล้วจะดีเสมอไป)
นอกจากนี้ ยังมีเครื่องชงกาแฟบางรุ่นที่เหมาะสำหรับบาริสต้ามืออาชีพที่ต้องการสกัดกาแฟโปรไฟล์พิเศษ โดยเครื่องนั้นอาจสามารถปรับแรงดันในระหว่างการสกัดกาแฟได้ เพื่อให้ได้รสชาติเป็นไปตามที่ต้องการ แต่เครื่องสกัดกาแฟประเภทนี้จะไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป เพราะต้องอาศัยความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับการสกัดกาแฟและการควบคุมอย่างละเอียด หากเอามาใช้สกัดกาแฟทั่วไปอาจทำให้รสชาติไม่สม่ำเสมอในแต่ละครั้ง ก่อให้เกิดความยุ่งยากและอาจชงไม่อร่อยได้
คำตอบกว้าง ๆ คือ 15 บาร์ก็เพียงพอแล้วสำหรับการทำเอสเปรสโซ่ที่ได้รสชาติเข้มข้นและครีม่าสวยงาม แต่หากได้เครื่อง 20 บาร์ ก็จะเหมาะกับคนที่อยากลองเล่นกับรสชาติใหม่ๆ ให้แตกต่างออกไป ถือเป็นข้อดีที่เครื่อง 20 บาร์สามารถยืดหยุ่นได้มากกว่าเครื่อง 15 บาร์ (บาริสต้าบางคนที่อยากให้รสชาติของกาแฟเป็นไปในโทนแบบอื่นตามที่ต้องการ เช่น อยากให้กาแฟออกเปรี้ยวมีความเป็น Acidity เพิ่ม หรือ Sweetness after taste เพิ่มขึ้น อาจลดแรงดันบาร์ลงตามคาแรกเตอร์ของเมล็ดกาแฟนั้น ๆ)
โดยสรุปแล้ว แรงดันบาร์มีผลต่อการสกัดกาแฟ แต่ไม่ได้หมายความว่า แรงดันเยอะกว่าจะดีกว่าเสมอไป หากคุณกำลังหาคำตอบว่า เครื่องชงกาแฟ 15 บาร์ กับ 20 บาร์ต่างกันอย่างไร? สรุปได้ง่าย ๆ ก็คือ ทั้งสองสามารถทำเอสเปรสโซ่ได้อร่อย เพียงแต่ 20 บาร์อาจให้การสกัดที่เข้มขึ้น มีครีม่าที่ดีขึ้น มีความเสถียรในการสกัดมากขึ้น โดยเฉพาะในเครื่องทำกาแฟที่ใช้ในบ้าน ทำให้ได้กาแฟคุณภาพสูงขึ้น โดยไม่ต้องลงทุนกับเครื่องขนาดใหญ่หรือต้องมีทักษะบาริสต้าสูง
ดังนั้น หากกำลังชั่งใจว่า เครื่องชงกาแฟกี่บาร์ดี? ให้มองที่มาตรฐาน 15 บาร์เป็นหลัก (ถ้าสูงกว่าได้ยิ่งดี เพราะสามารถปรับแต่งได้มากขึ้น) แล้วค่อยดูฟังก์ชันอื่น ๆ ประกอบว่า ยังต้องการอะไรเพิ่มอีกไหม เช่น เมล็ดกาแฟที่ดี เฟืองบดที่มีคุณภาพ และเบอร์บดที่เหมาะกับความชอบของคุณ รับรองว่า คุณจะได้กาแฟแก้วที่ถูกใจทุกเช้าอย่างแน่นอน
จากที่กล่าวไปแล้วว่า เครื่องชงกาแฟที่ใช้ทั่วไปมีแรงดัน 15 บาร์ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าจะให้ช็อตกาแฟมีคุณภาพดี บอดี้แน่นหรือมีความเข้มข้น และรสชาติคงอยู่ในปากนานขึ้น ไม่หายไปเร็ว มีความครีม่าสีทองสวย ฟองเล็กฟูละเอียด ดังนั้น การลงทุนด้วยเครื่องชงกาแฟที่มีครบทั้งเฟืองบดเมล็ดกาแฟแบบ Conical Burr ในตัว และแรงดันในการชงที่ให้มาถึง 19 บาร์ พร้อมสร้างครีม่าสีทองสวยด้วยการออกแบบมาอย่างพอดี เพื่อช่วยให้การสกัดเป็นไปอย่างสม่ำเสมออย่าง Jenniferoom Automatic Coffee Machine เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า แถมยังใช้งานง่ายแค่กดปุ่ม touchscreen เบา ๆ ก็พร้อมสกัดทันทีแบบไม่ต้องรอ Pre-Heat ให้เสียเวลา เลือกได้ทั้งแบบ 1 ช็อต สำหรับจิบเบา ๆ 2 ช็อต สำหรับคนที่ต้องการกาแฟปริมาณมากขึ้น หรือจะเป็นแค่น้ำร้อนก็ทำได้ง่าย ๆ เพียงแตะครั้งเดียวเท่านั้น เรียกได้ว่า ครบทุกฟังก์ชันและใช้งานง่าย เหมาะใช้ได้ทั้งที่บ้านและประจำออฟฟิศเลยทีเดียว
สั่งซื้อได้แล้ววันนี้ที่ https://www.makro.pro/th/p/8LbpX8c9-311972022698444
Tel. 02-2585210-13
Line: @jenniferoomth
Facebook : Jenniferoomth.Official
Shopee : https://bit.ly/ShopeeJENNI
Lazada : https://bit.ly/LazadaJENNI
![]()