บาริสต้ามาเอง! วิธีทำลาเต้อาร์ต (Latte Art) ตั้งแต่เริ่มต้น ลาเต้อาร์ตมีกี่ลาย? ทำยังไงให้สวยน่าถ่ายรูป?

บาริสต้ามาเอง! วิธีทำลาเต้อาร์ต (Latte Art) ตั้งแต่เริ่มต้นถึงระดับโปร ลาเต้อาร์ตมีกี่ลาย? ทำยังไงให้สวยน่าถ่ายรูป?

เวลาที่เราไปคาเฟ่แล้วเห็นถ้วยกาแฟร้อน ๆ ที่มีลวดลาย ลาเต้อาร์ต (Latte Art) สวย ๆ บนฟองนม เชื่อเลยว่า หลายๆ คนต้องยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปก่อนดื่มเก็บไว้สักรูป นี่แหละ คือ เสน่ห์ของ ลาเต้อาร์ต (Latte Art) ศิลปะที่สามารถเปลี่ยนแก้วกาแฟธรรมดา ๆ ให้เป็นเมนูเครื่องดื่มแสนพิเศษที่ผสานศิลปะเข้ากับกาแฟแก้วโปรดได้อย่างลงตัว

วันนี้ น้องเจนจะพาทุกคนมารู้จักกับวิธีทำลาเต้อาร์ตตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงระดับโปรฯ พร้อมไขข้อข้องใจ..ลาเต้อาร์ตมีกี่แบบกัน ลวดลายที่เห็นตามคาเฟ่เขาทำกันอย่างไร?  น้องเจนมีคำตอบค่ะ

ลาเต้อาร์ตคืออะไร

ลาเต้อาร์ต คือ ลวดลายศิลปะที่เกิดจากการเทฟองนมลงไปบนช็อตกาแฟแล้วทำการควบคุมทิศทาง และจังหวะมือจนกลายเป็นลวดลายที่สวยงาม 

ทั้งนี้ การตกแต่งแบบอื่น ๆ อย่างการโรยผงโกโก้ลงบนกาแฟ หรือใช้เครื่องพิมพ์เลเซอร์ลงบนหน้ากาแฟเป็นรูปต่าง ๆ จะไม่นับว่าเป็นลาเต้อาร์ต แต่จะเรียกด้วยชื่อเฉพาะอื่น ๆ เช่น เทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการโรงผงโกโก้ตกแต่ง เรียกว่า “โกโก้อาร์ต” หรือ “Cocoa Dusting”  และ เทคนิคที่ใช้แผ่นฉลุลายสำหรับโรยผงโกโก้ เรียกว่า “Cocoa Stencil”

เริ่มทำลาเต้อาร์ต (Latte Art) ควรเลือกวัตถุดิบอย่างไร?

• เอสเปรสโซ่ช็อตที่ดี เราต้องมีฐานที่แข็งแรงสำหรับการเทลาเต้อาร์ต (ครีม่า) ให้สวย บอดี้แน่นหรือมีรสชาติกลมกล่อม และมีความเข้มข้น ไม่บางเหลวเกินไป
• ฟองนมเนียนละเอียด (Microfoam) นมที่ตีจนได้เนื้อเนียนนุ่มเป็นมันวาว ไม่มีฟองอากาศใหญ่ ๆ มาปะปน

ลาเต้อาร์ตมีกี่แบบ แต่ละแบบต่างกันอย่างไรบ้าง?

ถึงลาเต้อาร์ต (Latte Art) จะมีลวดลายที่หลากหลายและพัฒนาได้ไม่สิ้นสุด แต่รูปแบบหลักๆ ในการทำลาเต้อาร์ต (Latte Art) สามารถแบ่งได้ 4 แบบ มาดูกันก่อนว่า แต่ละแบบมีคาแรกเตอร์พื้นฐานและรสชาติที่แตกต่างกันอย่างไร

ลาเต้อาร์ตแบ่งเป็น 4 รูปแบบหลัก: 

1. ลาเต้อาร์ตแบบ Free Pour Art

เป็นการเทนมโดยตรงลงไปบนกาแฟ ใช้ทักษะการขยับเหยือกนมสร้างลวดลาย เช่น หัวใจ (Heart), โรเซ็ตต้า (Rosetta), ทิวลิป (Tulip) ซึ่งถือเป็นลายพื้นฐานที่บาริสต้าทุกคนต้องเคยหัด โดยรสชาติของกาแฟที่ทำลาเต้อาร์ต (Latte Art) ด้วยเทคนิคนี้จะโดดเด่นที่ความกลมกล่อม นุ่มนวล มีบาลานซ์ที่ดีระหว่างกาแฟและฟองนม นอกจากนี้ เทคนิค Free Pour ยังต่อยอดเพิ่มความซับซ้อนได้ โดยการผสมผสานลวดลายหลายแบบเข้าด้วยกันในแก้วเดียว เรียกว่า Multi Free Pour Art

2. ลาเต้อาร์ตแบบ Etching Art

สามารถทำได้ โดยการใช้ไม้ปลายแหลมหรือเครื่องมือเขียนลายบนฟองนม เช่น วาดเป็นดอกไม้ ใบไม้ หรือแม้แต่การ์ตูนน่ารัก ๆ วิธีนี้ให้ความอิสระในการสร้างสรรค์มาก แต่ต้องอาศัยความใจเย็นและละเอียด สำหรับวิธีนี้จะใช้ฟองนมมากกว่าปกติ จึงทำให้ได้รสชาติของฟองนมที่โดดเด่นขึ้นมา

3. ลาเต้อาร์ตแบบ 3D Latte Art

ยกระดับความสนุกไปอีกขั้น ด้วยการตีฟองนมให้หนาและฟูจนสามารถปั้นขึ้นมาเป็นรูปสามมิติ เช่น หมีน้อย น้องแมว หรือตัวการ์ตูนต่าง ๆ ตามความชอบ ฟองนมที่ฟูขึ้นมายังสามารถขยับได้เล็กน้อยตามแรงยกแก้วจนทำให้แทบไม่กล้าดื่ม เพราะความน่ารักดุ๊กดิ๊กขยับได้ที่มากกว่าความอร่อย ก็สามารถสร้างสีสันในระหว่างการดื่มกาแฟให้เพิ่มมากขึ้นไปอีกขั้น

4. ลาเต้อาร์ตแบบ Colored Latte Art

ศิลปะที่เติมสีสันให้กาแฟ โดยใช้ผงโกโก้ ชาเขียว หรือสีผสมอาหารที่ปลอดภัย วาดลวดลายบนฟองนม เช่น ลาเต้อาร์ตสีรุ้ง (Rainbow Latte) หรือการทำกาแฟลาเต้แก้วพิเศษที่มีการตกแต่งด้วยสีต่าง ๆ เลียนแบบสีรุ้งให้ออกมาเหมือนรูปภาพศิลป์ที่สะดุดตา

อยากเริ่มทำลาเต้อาร์ตเองที่บ้าน ต้องเตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์อะไรบ้าง?

• เครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ่ที่มีแรงดันเหมาะสม
• เหยือกตีฟองนม (Milk Pitcher)
• นมสดที่สตีมจนได้อุณหภูมิ 60-65 องศาเซลเซียส (หากเกิน 70 องศาเซลเซียสจะทำให้รสชาติและเนื้อสัมผัสเปลี่ยนไป)
• ถ้วยกาแฟเซรามิกที่กว้างพอให้เทลายได้สะดวก
• ไม้ปลายแหลมหรือเครื่องมือเขียนลายบนฟองนม 

จากนั้นก็ฝึกเทลายพื้นฐานอย่าง “หัวใจ” หรือ “ทิวลิป” ก่อน เมื่อคล่องแล้วค่อยไต่ระดับไปทำลายซับซ้อนขึ้น

• ใช้นมเย็นจัดก่อนนำไปสตีม จะได้ฟองนมที่เนียนขึ้น
• อย่าเร่งเทเร็วเกินไป! ให้คุมจังหวะอย่างสม่ำเสมอตลอดการเท
• ฝึกบ่อย ๆ ความแม่นยำจะค่อย ๆ ดีขึ้น

หัวใจสำคัญที่ทำให้ลาเต้อาร์ตสวย ทำง่าย คือช็อตกาแฟที่เข้มข้น

นอกจากนมที่สตีมจนได้ที่และเทคนิคที่ฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับลาเต้อาร์ตสวย ๆ ก็คือ ช็อตกาแฟเอสเปรสโซ่ที่บอดี้แน่นพอและมีครีม่าสวยงาม โดยช็อตกาแฟที่ดีนั้น ยังขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยหลากหลาย เช่น เมล็ดกาแฟที่คลายแก๊สแต่ไม่เก่าจนเกินไป การบดเมล็ดกาแฟด้วยเฟืองบดที่ดี สม่ำเสมอ และละเอียดพอดี ไปจนถึงแรงดันของน้ำที่ใช้ชงกาแฟอย่างเหมาะสม ทั้งหมดนี้รวมกัน จึงจะทำให้การสกัดช็อตกาแฟสมบูรณ์แบบ (Perfect Shot) ขั้นตอนที่กล่าวมาแม้จะดูยุ่งยาก แต่น้องเจนนี่มีตัวช่วยอย่าง Jenniferoom Fully Automatic Coffee Machine Steam Latte Pro เครื่องชงกาแฟรุ่นตีฟองนม เครื่องที่มาครบทั้งเฟืองบดในตัวแบบ Conical Burr เกรดเดียวกับที่ใช้สำหรับกาแฟดริป จึงบดได้สม่ำเสมอและเก็บกลิ่นอโรมาของกาแฟไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม นอกจากนี้ ยังมีแรงดันน้ำสำหรับสกัดช็อตกาแฟที่มีมาให้ถึง 19 บาร์ จึงทำให้สกัดช็อตกาแฟออกมาได้ระดับใกล้เคียงกับเครื่องที่ใช้ตามร้านดัง แถมยังสามารถสกัดกาแฟได้ทันทีไม่ต้องรอวอร์มเครื่องนานทำให้ประหยัดเวลา ใช้งานง่ายแค่แตะสัมผัสปุ่ม touchscreen เบา ๆ ก็ได้ช็อตกาแฟสวย ๆ ไปทำลาเต้อาร์ตได้แล้ว หรือจะนำไปชงเมนูอื่นก็ได้ สำหรับการตีฟองนมก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแตะสัมผัสปุ่มเดียวเช่นกัน เรื่องความสะอาดก็ไม่ต้องกังวล เพราะเครื่องจะทำการล้างหัวตีฟองนมก่อนตีทุกครั้ง หรือถ้าต้องการล้างหัวตีฟองนมเมื่อไหร่ก็สามารถกดล้างได้ทันที เพียงเท่านี้เราก็สามารถทำกาแฟดื่มเองได้ โดยไม่ต้องง้อร้านดังหรือต่อคิวนาน ๆ อีกต่อไป

สั่งซื้อได้แล้ววันนี้ที่: https://www.makro.pro/th/p/c-a9R7Jb-562064827602816?info=JTdCJTIyaW5kZXhDbGlja2VkJTIyJTNBMSU3RA

Tel. 02-2585210-13
Line: @jenniferoomth
Facebook : Jenniferoomth.Official 
Shopee : https://bit.ly/ShopeeJENNI
Lazada : https://bit.ly/LazadaJENNI